ต้อกระจกคือ ภาวะเลนส์ตาขุ่นมัว โดยที่แสดงไม่สามารถเข้าไปในตาได้ตามปกติ ส่งผลทำให้มองเห็นไม่ชัดและมักเกิดอาการตามัว โรคต้อนี้มักจะเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเริ่มต้นจากการเกิดเพียงจุดเล็กๆ บนดวงตาจนขยายไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ซึ่งอาจจะทำให้มองไม่เห็นในท้ายที่สุดหากไม่มีการรักษาตั้งแต่ต้น อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็นต้อกระจก -เริ่มอ่านตัวหนังสือไม่ค่อยเห็น หรือเริ่มเพ่งมองวัตถุที่อยู่ใกล้ไม่ค่อยชัดเจน -สายตาเริ่มไวต่อแสดง โดยไม่สามารถทนแสดงจ้าเช่น แสงอาทิตย์ โคมไฟ หรือไฟหน้ารถ -เริ่มมองเห็นสีสันวัตถุไม่ชัดเจน -มองเห็นวงแหวนรอบแสงไฟหรือหลอดไฟ หรือมองเห็นแสงระยิบระยับ นี่ก็เป็นอาการเบื้องต้นของผู้มีความเสี่ยงในการเป็น “ต้อกระจก” ซึ่งผู้ที่มีอาการจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการเสี่ยงนี้ ซึ่งทางแพทย์จะทำการตรวจสอบวัดสายตาและทดสอบขยายรูม่านตา เพื่อตรวจสอบจอประสาทและความผิดปกติต่างๆ โดยอาจมีการใช้กล้องจักษุจุลทรรศน์ชนิดลำแสงแคบ เพิ่มการตรวจสอบโครงสร้างส่วนเล็กได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น และมีการวัดความดันลูกตา เพื่อแยกระหว่างต้อกระจกกับต้อหินที่มีความดันตาสูง และหาทางรักษาที่เหมาะสม หากคุณสังเกตอาหารเบื้องต้นของตัวเองก่อนและรักษาตั้งแต่แรกๆ ก็อาจไม่จำเป็นต้องรับการผ่าตัดแต่อย่างใด เพียงหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงหรือพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ -หลีกเลี่ยงการใช้สารสเตียรอยด์หรือยาลดความอ้วนบางชนิดเป็นเวลานาน เพราะยาทั้งสองรูปแบบนี้ส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้มวลความดันในลูกตานั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดต้อหินได้ -ควรสวมใส่แว่นตาเมื่อคุณอยู่กลางแจ้ง เพราะแสดงอัลตราไวโอเลตนั้นจะมีส่งผลต่อประสิทธิภาพในการมองเห็นโดยตรง อาจทำให้เห็นวงแหวนจากแสงนั้นและมีอาการตามัวติดต่อนานหลายชั่วโมง -งดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์หนักเป็นประจำ เพราะทั้งสองปัจจัยนี้สามารถเพิ่มความดันในดวงตาของคุณสูงเกินกว่าระดับมาตรฐาน -หากคุณมีอายุมากกว่า 40ปี เป็นต้นไป ควรรับตรวจสายตาเป็นประจำทุกปี เพราะช่วงวัยสูงอายุนั้นย่อมทำให้มีความเสี่ยงมากกว่า -ไม่ควรใช้ยาหยอดตาหากไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งหรือคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะหลายคนที่ใช้ยาหยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคืองจากการใส่คอนเทคเลนส์ เพราะยาทุกชนิดย่อมมีปริมาณจำกัดที่สามารถใช้ในแต่ละวันเพื่อป้องกันการก่อสารอันตราย -หากคุณต้องใช้สายตาในการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานในแต่ละวัน จำเป็นต้องพักสายตาโดยการหลับตาเป็นระยะ หรือใส่แว่นตากรองแสงจากคอมพิวเตอร์ที่ป้องกันแสง LED ได้ -เมื่อคุณทราบถึงปัจจัยเสี่ยงต้อกระจกแล้ว ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจจะทำลายสายตาคุณ หรือเพิ่มโอกาสเสี่ยงต้อหินได้ในอนาคต คุณอาจสงสัยว่า หากเป็นต้อกระจกแล้ว จำทำรักษาอย่างไรได้บ้าง การรักษาต้อกระจกในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ เราจะหยิบยกมาอธิบายคร่าวๆ ดังนี้ -การผ่าตัดแผลใหญ่ ที่เป็นรูปแบบการผ่าตัดแบบดั้งเดิม โดยคุณจะได้รับยาชาก่อนการผ่าตัดนี้และมีการปิดไหมหลังการผ่าตัด -การใช้เลเซอร์ในการแยกเลนส์แก้วตาเป็นชิ้น และสลายด้วยคลื่นความถี่สูง เป็นวิธีที่ทันสมัยและมีรอบแผลที่เล็กมาก การรักษาต้อกระจกเป็นหนึ่งในการรักษาที่มีราคาค่อนข้างสูง ถ้าจะให้ดีควรทำตามคำแนะนำปัจจัยเสี่ยงที่เราได้รวบรวมมาในบทความนี้เพื่อป้องกัน และสร้างสุขภาพตาที่ดีสำหรับคุณ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ควรต้องรับการตรวจสายตาเป็นประจำทุกปีเพื่อการแก้ไขที่ทันท่วงที
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดต้อกระจก